
ปิรามิดแห่งมอชเช่
มอชเช่ ชาวมอชเช่เป็นที่รู้จักในฐานะชนเผ่าที่คลั่งและหลงใหลในเลือด
พวกเขาเคยอาศัยอยู่ที่เปรูตอนเหนือ เมื่อเกือบ 2,000 ปีก่อน
ที่ซิแพน ในดินแดนมอชเช่
ซึ่งเป็นแหล่งขุมทรัพย์ใต้ดินของอเมริกาใต้
ที่มีค่าเทียบเท่าสุสานของอียิปต์เลยทีเดียว
มันถูกค้นพบโดยพวกโจรที่ลักลอบเข้าไป ประมาณปี 1987
มันถูกฝังอยู่ในเนินโคลน ที่อดีตเคยเป็นปิรามิดหลวงขนาดมหึมา
ที่ชี้ขึ้นไปยังสวรรค์ครับ ซิแพนเคยเป็นสนามรบ
และดงกระสุนของพวกที่จะหวังสมบัติล้ำค่าจนถึงขนาดยอมแลกชีวิต
นี่คือสุสานของพวกที่ปัจจุบันนี้
มีชื่อเล่นว่า ลอร์ดซิแพน และตรงกลางนั้นก็คือลอร์ดซิแพน
มีโครงกระดูกหลาย ๆ ศพ เรียงรายอยู่รอบ ๆ นี้
คิดว่ามีการขุดพบศพทั้งหมด 8 ศพในนี้ครับ น่าจะเป็นทหารอารักขา
ซึ่งถูกตัดขาทั้งสองข้าง ถึงมอชเช่ เป็นอารยธรรมที่เถื่อน
แต่ว่ามีความน่าทึ่งอยู่ในตนเอง

ศพด้านข้าง เป็นทหารอารักขา
สำหรับชาวมอชเช่แล้วการบูชายันต์ด้วยมนุษย์ถือเป็นสิ่งสำคัญในศาสนาของพวกเขาครับ
แต่นอกจากนั้นพวกเขาก็มีความสามารถสูงมากในฐานะช่องทองและช่างโลหะ
อัญมณีและเครื่องประดับมหาศาล ถูกค้นพบในสุสานต่าง ๆ ในซิแพน
คำนวณอายุแล้วตั้งแต่สมัย ศตวรรษที่ 1-3 เลยทีเดียวครับ
แต่ว่าสิ่งที่อยู่ที่นี่เป็นเพียงของจำลองครับ
ของจริงถูกเก็บรักษาในที่ที่ปลอดภัย

โลกแห่งมอชเช่
นี่คือสร้อยคอ พบจากสุสานของลอร์ดซิแพน
เก่าแก่ประมาณ 1,900-2,000 ปี เทพเจ้าแมงมุมมีอำนาจมากครับ
เป็นเทพเจ้าแห่งการรักษา เชื่อว่าไยแมงมุมจะช่วยรักษาบาดแผล
และทำให้เลือดหยุดไหลได้ รูปที่หล่อออกมาเป็นแมงมุม
จะสะท้อนความเชื่อทางศาสนาหลายข้อครับ รวมถึง
พิธีกรรมอื่นของชนเผ่าด้วยนะครับ
โดยเฉพาะพิธีกรรมที่เราเรียกกันว่า โหดร้ายป่าเถื่อน
คือการบูชายันต์

สัญลักษณ์บนสร้อยคอ ลักษณะเป็นเส้นคล้ายใยแมงมุม และก็ศีรษะมนุษย์
การตัดคอของศัตรู
พวกเขาเชื่อว่า ศีรษะนั้นมีอำนาจที่ยิ่งใหญ่ครับ
และมัดเหยื่อไว้แน่นหนา
ก่อนที่จะมีการบูชายันต์ ใยแมงมุมจึงเป็นสัญลักษณ์การมัดเหยื่อบูชายันต์นั่นเองครับ
แมงมุมจะสูบกินของเหลว และร่างกายของเหยื่อเพื่อเป็นอาหารของมัน
คิดว่า
เผ่านี้ก็คงจะดื่มเลือดเหยื่อบูชายันต์เช่นเดียวกันนะครับ
ทั้งนี้เพื่อที่จะซึมซับพลังอำนาจ และจิตวิญญาณเข้าไปนั่นเองครับ
ดังนั้นแล้วแมงมุมนี่จึงเป็น สัญลักษณ์แทนพิธีกรรมบูชายันต์ของ
พวกเขานั้นเอง

จากชนเผ่าที่ร้อนแรง
ซึ่งเป็นผู้สร้างมันขึ้นมา
เป็นโลกซึ่งความสวยงามละเอียดอ่อนและเคียงคู่ไปกับความโหดร้าย
ที่น่าตกตะลึง
มันเป็นประวัติศาสตร์ที่ยังมีอำนาจในการทำให้คนอื่นกลัวได้