kaka du rock art
ดินแดนทางตอนเหนือของออสเตรเลีย
ศิลปะที่เก่าแก่ที่สุดในประวัติศาสตร์
ศิลปะที่เกิดขึ้นพร้อมกับการกำเนิดของมนุษย์
สถานที่มนุษย์เคยอาศัยเมื่อ 500,000 –
600,000 ปีมาแล้วไม่ว่าจะเก่าแก่เพียงใด
ศิลปะเหล่านี้ก็ไม่มีวันตายครับ

มันเป็นศิลปะที่ได้แรงบันดาลใจมากจากธรรมชาติ ที่มีอยู่รอบ ๆ
ตัวเรา ภาพวาดนี้วาดโดยบรรพบุรุษชาว อบอริจิ้น
ซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่ตั้งแต่ดั้งเดิม
มีภาพวาดหลายร้อยภาพอยู่ตามหินต่าง
ๆ แต่ละภาพก็วาดลงบนแผ่นหิน รอบ ๆ ตัวเต็มไปหมดเลยครับ
อายุของมันยาวนานถึง เกือบ 20,000 - 30,000 ปีเดียวครับ
แต่บางภาพเหมือนเพิ่งวาดเมื่อเร็ว ๆ นี้ เป็นภาพที่มีชีวิตชีวาครับ
เปี่ยมไปด้วยความหมายและพลัง
มันช่วยบอกเล่าเรื่องราวของการถือกำเนิดของชีวิต
โดยเฉพาะชีวิตมนุษย์ตลอดหลายร้อยหลายพันปีที่ผ่านมา
ภาพเหล่านี้บอกถึงเรื่องราวทั้งอดีตและปัจจุบันครับ
และบอกเรื่องราวของชนเผ่าที่อาศัยที่นี่มานานแล้ว
นานหลายชั่วอายุคนเลยทีเดียว

ภาพวาดพวกนี้ไม่ได้ลบเลือนไปตามกาลเวลานะครับ แต่ยังคงชัดเจนสดใส
ยังกับฝีมือของชาวอบิริจิ้นยุคปัจจุบัน
นี่เป็นงานศิลปะที่มีทรงพลังมีทั้งภาพปลา เต่า และสัตว์ป่าต่าง ๆ
ซึ่งมีความหมายลึกซึ้งทางจิตใจ
ขณะที่เดินมาตามทาง
กับงานศิลปะที่เก่าแก่ที่สุดในโลก
การสร้างสรรค์ของบรรพบุรุษในยุคแห่งความฝัน
จุดเริ่มต้นแห่งความรู้และความเข้าใจ

จากตำนานเก่าแก่เป็นเรื่องของพี่น้องเผ่านามากัน
ที่มีความเห็นแก่ตัวจนกลายร่างเป็นจระเข้ คอยตามล่าพวกพ้องในอดีตที่เป็นมนุษย์
บุคคลที่วาดภาพเหล่านี้ สำคัญยิ่งกว่าตัวภาพวาดซะอีก
พวกเขาต้องมีพลังและมีความรู้เรื่องต่าง ๆ อย่างมากเลยนะครับ

ค่อนข้างเหลือเชื่อที่ว่าตำนานการสร้างเรื่องราวต่าง ๆ
ในอดีตมันมีบางส่วนที่เกี่ยวข้องกับเรื่องราวในปัจจุบัน
มีการแสดงอวัยวะภายในของสิ่งมีชีวิตอย่างละเอียดมาก
เหมือนแผนภูมิวิธีอธิบายการแล่ปลา และสิ่งที่คนสมัยนั้นกินกัน

ภาพนี้ งูสายรุ้ง เป็นตัวเมียด้วย
คือ เทพแห่งพื้นโลก พลังแห่งผู้หญิง มีส่วนหัวที่มุดลงใต้ดิน งูสายรุ้งมันก็คือรุ้งนั้นเองครับ
พูดอีกอย่างก็คือ
สายรุ้งเปรียบเสมือนสะพานขนาดใหญ่ที่เชื่อมระหว่างโลกนี้กับโลกหน้า
มันเป็นภาพที่ทรงพลังมากครับ มีความเป็นนามธรรมสูงมาก ๆ
เลยด้วยครับ เทพเจ้าแห่งพื้นโลก
ชีวิตแห่งพื้นโลกและก่อกำเนิดจากเพศหญิง

นี่เป็นการเผชิญกับรากเง้าทางวัฒนธรรม
ในตำนานของสังคมมนุษย์ยุคแรกสุดเลยทีเดียวครับ
มันเป็นความเชื่อที่ยากจะลบล้างได้ ถ้าคนรุ่นใหม่หันหลังให้มัน
แล้วใครละจะเป็นผู้สืบทอดศิลปะอันเก่าแก่เหล่านี้ ให้คงอยู่ตลอดไป